Powered By Blogger

9 September 2011

ระบบขับถ่ายปัสสาวะ

                
การที่ร่างกายได้รับอาหารหรือสิ่งต่างๆ เข้าไปเพื่อใช้ประโยชน์และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านกายภาพและทางเคมีแล้ว ย่อมจะต้องมีของเหลือใช้หรือของเสียร้่างกายไม่พึ่งประสงค์จะต้องขับออกนอกร่างกาย สำหรับระบบขับถ่ายปัสสาวะจะทำหน้าที่ขับถ่ายของเสีย โดยการนำเอาของเสียออกจากโลหิต โดยมีระบบอวัยวะของระบบคือ ไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ


ไต Kidney


รุปเหมือนถั่วแดง อยู่ผนังด้านในของด้านหลังช่องท้อง มีอยู่ 1 คู่ ซ้ายและขวา ยาวประมาณ 5 นิ้ว ก้วาง 3 นิ้ว และหนา 2 นิ้ว เหนือไตขึ้นไปจะเป็นไขกระดูกสันหลังตอนนอก ชิ้นที่ 11 หรือ 12 ไตข้างจะอยุ่ต่ำก่วาไตข้างซ้าย เนื่องจากข้างขวามีตับเบียดลงมา


เมื่อผ่าไตออกเป็น 2 ซีก ตามยาวจะเห็นเนื้อไตตรงกลางเว้าเข้ามามากเกินเป็นแอ่งบริเวณนี้เรียนกว่า ขั่วไต Hilum ซึ่งเป็นทางเข้าของเส้นประสาทและหลอดเลือดแดงและกลายเป็นทางออกของหลอกเหลือดดำกับท่อไต ureter ซึ่งทอดยาวไปไปติดต่อกับกระเพาะปัสสาวะ urinyry biadder ไตถูกหุ้มด้วยเยื่อเกี่ยวพันเหนียว ที่ขั่วไต ท่อไตจะบานออกเป็นกรวยไต อันเกิดจากการรวมตัวของเคลิกซ์ ทั้งหลายเคลิกซ์นี้เป็นทีรองน้ำปัสสาวะซึ่งใหลมารวมท่อรวม มาเทลงเคริกซ์





เนื้อไตแบ่งออกเป็น 2 ชั้น คือ





ก. เนื้อไตชั้นนอก Cortex หรือเปลือกไต มีน้ำตาลปนแดง เป็นส่วนประกอบด้วยรีนาล คอร์พัาเซิล


และท่อเล็กๆ สำหรับน้ำปัสสาวะ เนื้อไตตอนนี้บางส่วนจะแทรกเข้าไประหว่างปิรามิด ซึ้งอยู่ในเนือ้ชั้นไน เราเรียกส่วนที่ยื่นเข้าปในนี้เรียกว่า รีนาล คอลลัมน์ พวกนี้จะอยู่ช่วยห่อหุ้มเส้นโลหิตที่อยุ่บริเวณนี้ด้วย


ข. เนื้อไตชั้นใน Medulla เป็นเนื้อของไตที่อยุ่ข้างใน ประกอบด้วยรีนาลบ ปิรามิด มีลักษณะรูปเป็นสามเหลี่ยมประมาณ 8-18 อัน ที่ฐานของปิราลมิดจะหั้นไปทางด้านเนื้อ ไตด้านนอก ส่วนปลายของปิราลมิลมีลัษณะกลมๆ ยื่นเข้าไปในกรวยไต ปลายแหลมที่ยื่นอันนี้เรียนกว่า แพบพิลลา Papallar จะมีรุเล็กๆ อันเป้นทางที่น้ำปัสสาวะจะใหลผ่านออกจากไตไปสู่กรวยไต





ท่อไต เป็นท่อที่น้ำปัสสาวะจากไตไปสุ่กระเพาะปัสสาะ มีอยุ่ 2 ท่อ ตั้งต้นจากกรวยไตทอดลงไปข้างล่างท่อไตแต่ล่ะข้าง ยาวประมาณ 10-20 นิ้ว ก้วาง1/2 นิ้ว





ผนังของท่อ ไต แบ่งออกเป็น 3 ชั้น คือ





1.ชั้นนอกเป็นเนื้อเยื่อเส้นใย มีหลอดโลหิตประสาทมาหล่อเลัี้ยง





2. ชั้นกลาง ประกอบด้วยกล้ามเนื้อเรียบ





3. ชั้นใน บุด้วยเยื้อเมือก เป็นเยื่อเมือกหล่อลื่น








กระเพาะปัสสาวะ Urinary bidder





เป็นอวัยวะที่ประกอบด้วยกล้ามเนื้อเรียบ ยืดหดได้ ตั้งอยุ่ในอุ้งเชิงกราน Pelvic cavity มีรุปร่างขนาดและอยุ่ในตำแหน่งต่างๆ กัน สุดแล้วแต่เพศและวัย หรือเวลากระเพาะปัสสาวะเต็ม หรือว่าง ในเด็กกระเพาะปัสสาวะจะมีรุปร่างเหมือนกรวย และยื่นออกมาเหนือเชิงกราน กระเพาะปัสสาวะมีผนังหนาแบ่งออกเป็น 4 ชั้น คือ





1. ชั้นแรก เป็นชั้นนอกสุด มีเยื่อ เปอริโตเนียม Peritoneumหุ้มอยุ่





2. ชั้นที่สองเป็นกล้ามเนื้อเป็นชั้นที่หนาที่สุดมีกล้ามเนื้อ 3 ชั้น ชั้นที่ 1 และชั้นที่ 3 เป็นเซลของกล้ามเนื้อเรรียงตัวตามยาว ส่วนชั้นกลางเซลวางตัวตามขวาง





3. ชั้นที่สามเป็นพวก Subumucous coat





4. ชั้นที่สี่ เป็นชั้นเยื่อเมือกและอยุ่เรียยงเป็นรอยย่น ๆ ในเวลากระเพาะปัสสาวะว่าง





ท่อปัสสาวะ
เป็นท่อนำน้ำปัสสาวะจากกระเพาะปัสสาวะไปสู่ภายนอกในชาย ท่อปัสสาวะยาว ๒๐ เซนติเมตร นำน้ำปัสสาวะจากกระเพาะปัสสาวะไปสู่ภายนอกที่ปลายลึงค์ ท่อปัสสาวะในชายยังเป็นทางผ่านของน้ำอสุจิด้วย ท่อปัสสาวะในชายคดเคี้ยว คล้ายตัวเอส (S) และแบ่งได้เป็น ๓ ส่วนคือ





ส่วนที่หนึ่ง ยาวประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร จากมุมล่างสุดของกระเพาะปัสสาวะทอดลงล่างในแนวดิ่ง ผ่านกลางต่อมลูกหมาก จึงเรียกว่า ส่วนในต่อมลูกหมาก (prostatic part)เพราะท่อปัสสาวะส่วนนี้มีต่อมลูกหมากล้อมรอบส่วนนี้ และมีท่อจากต่อมลูกหมากจำนวนมากมาเปิดสู่ท่อปัสสาวะส่วนนี้ และยังมีท่อฉีดอสุจิซึ่งเป็นท่อร่วมของเซมินัลเวสิเคิล และ
ท่ออสุจิมาเปิดสู่ท่อปัสสาวะส่วนนี้ด้วย





ส่วนที่สอง เป็นส่วนสั้นที่สุด มีกล้ามเนื้อลายเป็นหูรูดอยู่ล้อมรอบ เรียกว่า ส่วนบาง (membrarous part)อยู่ต่ำกว่าข้อต่อหัวหน่าวประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร ไปสู่กระเปาะของลึงค์ (bulb of penis)





ส่วนที่สาม ยาวที่สุดและคดเคี้ยว อยู่ในเนื้อเยื่อที่แข็งตัวได้ ส่วนคอร์ปัสสปอนยิโอซุม (corpus spongiosum)เรียกว่า ส่วนฟองน้ำหรือส่วนในลึงค์ (spongy part) ผ่านส่วนกระเปาะ (bulb) ส่วนลำ (body)และส่วนหัว (glans)ของลึงค์แล้วเปิดสู่ภายนอกที่ปลายลึงค์





ในหญิง ท่อปัสสาวะยาว ๔ มิลลิเมตร จากมุมล่างสุดของกระเพาะปัสสาวะทอดโค้งลงล่างไปข้างหน้า เปิดสู่อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก หน้ารูเปิดของช่องคลอด ต่ำกว่าคลิตอริสประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร



น้ำปัสสาวะ Urine








น้ำปัสสาวะเป็นของเหลวที่ถูกกรองมาจากไต เพื่อขับออกมาภานนอกร่างกาย น้ำปัสสาวะที่เป้นปกติเป็นน้ำสีใสเหลืองออ่นเป็นกลิ่นเฉพาะตัว และมีสภาพเป็นกรดอ่อนๆ สำหรับผู้ที่รับประทานอาหารเนื้อมากๆ ปัสสาวะจะมีฤทธิ์เป็นด่างได้ วันหนึ่งๆ ไตสามรถกรองของเหลวออกจากเลือดได้ประมาณ 180 ลิตร แต่จะถูกดูดซึมเข้าโดยท่อไตเล็กๆ เสียประมาณ 99% คงออกมาเป็น้ำปัสสาวะประมาณ วันละ 1.5 ลิตร





ส่วนประกอบของน้ำปัสสาวะ ประกอบด้วยน้ำประมาณ 95 % เป็นพวกสารอินทรย์และสารอนินทรีย์อีกประมาณ 5 %








ลักษณะปกติของน้ำปัสสาวะ





1. มีความถ่วงจำเพาะ 1.010-1.030





2. มีสีเหลืองอ่อน ๆ ไส และมีกลิ่นฉุนของแอมโมเนีย แต่ความใสและสีน้ำของปัสสาวะขึ้นอยู่กับจะนวนน้ำและอาหารที่รับประทานเข้าไป





3. มีปฎิกิริยาเป็นกรดอ่อน ๆ pH ประมาณ 6.0 เนื่าองจากมีกรดโซเดียมฟอสเฟต





4. ไม่มีน้ำตาล





5. ไม่มีอซีโตน





6. ไม่มีอัลบูมิน











ลักษณะที่ผิดปกติของน้ำปัสสาวะ





1. มีสีแดงเข้ม เหลืองแก่ หรือน้ำตาล





2. มีอัลบูมิน ในปัสสาวะ ซึ่งเนืองจากความดันโลหิตสูงหรือรับประทมานอาหารที่มีโปรตีนมากเกินไ ป หรือไตพิการ





3. มีต้ำตาลในปัสสาวะ พบในคนที่เป็นโรคเบาหวาน





4. มีสารอซีโตน เนื่องจากการเผาผลาญของไขมันไม่ปกติ





5. มีนิ่วในปัสสาวะ





6. มีหนอกในปัสสาวะ แสดงว่ามีการอักเสบในอวัยวะของระบบนี้ส่วนใดส่วนหนึ่ง





7. มีโลหิตในปัสสาวะ เนื่งจากมีการอักเสบร้ายแรง เกิดขึ้นในอวัยวะที่เกี่ยวกับระบบนี้ เช่น มะเร็ง และนิ่วในไต








         

No comments:

Post a Comment